เมืองทองฯฟ้อง”เปาไพโรจน์”เอาอีกแล้ว-ลั่นส.บอลควรส่งฟีฟ่าดูคลิปตัดสินทุกนัด

เมืองทองฯเปิดศึกทวงความยุติธรรมฟ้องผู้ตัดสิน ไพโรจน์ บุญกำเนิด ทำหน้าที่ผิดพลาดอีกแล้วในแมตช์กิเลนผยองออกไปพ่ายสมุทรปราการ ซิตี้ 1-2 เมื่อวันพุธที่ 2 ต.ค.ผ่านมา ถือว่าเป่าผิดพลาดซ้ำซาก และสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังไม่สามารถแก้ปัญหาเดิมๆ ได้สักที ทั้งที่มีการยื่นเรื่องประท้วงจากหลายๆ ทีมมาตลอด วอนเรื่องฟ้องร้องดังกล่าวขอให้มีการพิจารณารวดเร็วเหมือนคู่นัดชิงลีก คัพ พีที ประจวบ-บุรีรัมย์ ด้วย ถ้าจะส่งฟีฟ่าพิจารณาก็ควรให้ดูคลิปตัดสินทุกนัดไปเลย

จากการเปิดเผยของ กานต์ จันรัตน์ ผู้จัดการทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2562 ที่ผ่านมาเกี่ยวกับแมตช์ไทยลีกที่ทีม เมืองทอง ออกไปพ่าย สมุทรปราการ ซิตี้ 1-2  ทางทีมเมืองทองฯรู้สึกผิดหวังกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ไพโรจน์ บุญกำเนิด ที่ทางคณะกรรมการผู้ตัดสินของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ส่งมาทำหน้าที่ในนัดนี้อย่างมาก ถ้าหากเราจะแพ้ด้วยเกมฟุตบอลที่สู้กันแบบแฟร์ๆ เราไม่ว่าอยู่แล้ว แต่นี่ผู้ตัดสินไพโรจน์เป่าให้เราเสียประโยชน์อย่างน่ากังขาหลายครั้ง มันสุดทนจริงๆ โดยเฉพาะลูกที่ผู้เล่นของเรา ไดสุเกะ ซาโตะ หลุดเข้าไปจะง้างเท้ายิงประตูอยู่แล้ว แต่ผู้ตัดสินไพโรจน์ก็มาเป่าแฮนด์บอลเอาดื้อๆ ทั้งที่จริงๆ แล้วไม่ได้มีการแฮนด์บอลซาโตะเลย ทำให้เราเสียโอกาสได้ประตู แบบนี้มันคืออะไร

โดยทางผู้ตัดสิน ไพโรจน์ บุญกำเนิด คนนี้ ใครที่ตามข่าวฟุตบอลมาตลอดก็จะรู้ดีว่าเคยทำหน้าที่ผิดพลาดร้ายแรงจนเป็นประเด็นอื้อฉาวในโลกโซเชียล กูกตำหนิ ต่อว่า อย่างรุนแรงในแมตช์ ลีก คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ทีม ตรัง พบกับ บุรีรัมย์ และบุรีรัมย์เล่นต่อเวลาพิเศษเอาชนะไปได้ ทั้งๆ ที่ทีมตรังควรจะชนะในนัดนี้หากตัดสินกันอย่างยุติธรรม ในจังหวะที่ผิดพลาดอย่างไม่น่าเชื่อของผู้ตัดสิน ผู้เล่นตรังหลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบโทษจะยิงประตู แต่ผู้รักษาประตูของบุรีรัมย์ออกมาทำฟาวล์นักเตะที่หลุดเดี่ยวของตรังอย่างชัดเจนมากๆ มีคลิปเผยแพร่แบบชัดแจ้ง แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ทั้งจุดโทษและใบแดงแก่นายทวารบุรีรัมย์ และในที่สุดตรังก็ต้องมาปราชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ
อันนี้ส่อถึงเจตนาอะไร ลองไปเซิร์ชกูเกิลดูคลิปและอ่านคอมเมนต์ของแฟนบอลที่มีต่อแมตช์ รวมทั้งตัวผู้ตัดสินไพโรจน์ได้เลย

ขณะเดียวกัน กว่าที่จะมีการตัดสินลงโทษการทำหน้าที่ที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ของ ไพโรจน์ บุญกำเนิด ก็ใช้เวลานาน จนต้องมาลงโทษย้อนหลังห้ามทำหน้าที่แค่ 3 เดือนเท่านั้น เพราะทนกระแสสังคมที่ร้อนระอุในโลกโซเชียลไม่ไหวนั่นเอง ทว่าทีมตรังก็เสียผลประโยชน์ตกรอบไปแล้ว ลองพิจารณาดูว่าใครได้ประโยชน์บ้าง พอพ้น 3 เดือนแป๊บเดียว ผู้ตัดสินคนนี้ก็กลับมาเป่าต่อ และทีนี้เป็นไง ยังได้เป่าในไทยลีก และกรรมก็มาตกกับทีมเราในแมตช์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และทีมอื่นก็คงโดนอีกไปเรื่อยๆ เหมือนที่ตรัง และเมืองทองโดน

โดยทาง กานต์ จันรัตน์ ได้กล่าวต่อไปว่า ในเคสนี้ทางเมืองทองฯนอกจากจะยื่นเรื่องประท้วงฟ้องไปยังคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท และข้อประท้วงของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แล้ว เราจะยื่นไปยังฟีฟ่าให้พิจารณาเหมือนที่ทางสมาคมฯได้ทำเรื่องของ พีที ประจวบ-บุรีรัมย์ ไปยังฟีฟ่าเช่นกัน ให้ดูคลิปการทำหน้าที่ไปเลย ฟีฟ่าจะได้รู้ว่าผู้ตัดสินไทยส่วนใหญ่เป็นอย่างไร แม้มีหน้าใหม่ขึ้นมาแทบทุกวัน ยังตัดสินแย่ๆ เหมือนเดิม

การที่มีเรื่องร้องเรียนการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินจากแต่ละทีมมากมาย ไม่เว้นแม้กระทั่งคดีของบุรีรัมย์แบบนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ น่าจะส่งคลิปการทำหน้าที่ผู้ตัดสินในไทยลีกทุกนัดให้ฟีฟ่าไปพิจารณาดูทั้งหมดเลย จะได้เป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ฟีฟ่า และวงการฟุตบอลทั่วโลกจะได้เห็นว่าฟุตบอลเมืองไทยตัดสินกันห่วย หรือไม่ห่วยอย่างไร

ที่สำคัญตนและอีกหลายๆ ทีมที่ได้มีการพูดคุยปรึกษากัน อยากวอนให้ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้ช่วยพิจารณาข้อประท้วง หรือมีการตัดสินลงโทษความผิดพลาดของผู้ตัดสินให้รวดเร็วทันการณ์เหมือนกับคำสั่งลงโทษคู่นัดชิงลีก คัพ พีที ประจวบ กับ บุรีรัมย์ หน่อย ไม่ใช่ว่าคู่อื่นๆ ตั้งหลายคู่ที่มียื่นเรื่องประท้วงไปเตะก่อนคู่นี้ไปตั้งนานแล้ว แต่เรื่องยังถูกดองอยู่ ทว่าคู่นัดชิงลีก คัพ เท่าที่ทราบข่าวมาทางผู้แพ้ยังไม่ทันส่งเรื่องประท้วงไปถึงคณะกรรมการเลย แต่มีคำสั่งจากไหนไม่รู้ และจะเอาใจใครไม่รู้ รีบให้พิจารณาลงโทษผู้ตัดสินทันควันเลย แถมจะส่งเรื่องไปยังฟีฟ่าด้วย

อันที่จริงเรื่องปัญหาผู้ตัดสินที่มีเรื่องผิดพลาดให้เห็นแทบทุกนัดนั้น ทางทีมเมืองทองฯเองเห็นใจนายกสมาคม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อย่างมาก ที่ต้องมาปวดหัวกับเรื่องการบริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่ตนเองอาจจะไม่ถนัดมาตั้งแต่แรก เจอเล่ห์เหลี่ยมสารพัดในวงการฟุตบอลที่แตกต่างจากวงการสีกากีโดยสิ้นเชิง เจอทั้งคนไกลตัวและใกล้ตัวที่ต่างเอาแต่ผลประโยชน์ส่วนตน เอาแต่ใจตนเอง อยากฝากให้ท่านนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เร่งแก้ไขปัญหาเรื้อรัง โดยเฉพาะเรื่องการตัดสิน ความยุติธรรมในการทำหน้าที่ อย่าให้เป็นมะเร็งร้าย เป็นเรื่องด่างพร้อยในสมัยที่ท่านดำรงตำแหน่งเลย

ตนและอีกหลายๆ ทีมมั่นใจว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ถ้าหากกล้าตัดสินใจในการหน้าที่ต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องผู้ตัดสิน โดยไม่ยอมอยู่ภายใต้คำสั่งของใคร วงการฟุตบอลบ้านเราจะเดินหน้าไปได้อย่างแน่นอน พล.ต.อ.สมยศ ก็จะเป็นนายกสมาคมที่สง่างาม ทั้งตอนรับหน้าที่ หรือตอนวางมือไปแล้ว ก็จะมีแต่เสียงยกย่องสรรเสริญมากกว่าเสียงก่นว่า