สนับสนุนเนื้อหา
ฝ่ายการแพทย์ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เผยไอเดียใหม่ อาจมีการสั่งแบนการถ่มน้ำลายของนักฟุตบอล แม้จะเป็นการถ่มลงพื้นสนามเท่านั้น เมื่อถึงเวลาที่สามารถกลับมาแข่งขันกันต่อได้แล้ว เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และอื่นๆ ในอีกทาง
ในการกลับมาเตะใหม่อีกครั้งของฟุตบอลยุโรปหลายๆ ลีก มาตรการด้านสุขภาพของแต่ละประเทศกำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณา รวมถึงเงื่อนเวลาว่าจะสามารถคืนสนามกันได้ตอนไหนเมื่อไหร่
หนึ่งในไอเดียใหม่ที่อาจออกจากฟีฟ่า คือการแบนการถ่มน้ำลายของนักฟุตบอล จากเดิมที่นับเป็นความผิดสำหรับการถ่มน้ำลายใส่นักเตะคู่ต่อสู้ แต่หลังจากนี้อาจเป็นความผิดแม้กระทั่งการถ่มลงพื้น โทษทัณฑ์เท่ากับ 1 ใบเหลือง
มิเชล ดีฮูเก้ ประธานฝ่ายการแพทย์ฟีฟ่า เผยกับ เดอะ เทเลกราฟ ว่า “สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาในฟุตบอล แต่ที่จริงมันไม่ถูกสุขลักษณะสักเท่าไร ดังนั้นเมื่อเราเริ่มฟุตบอลอีกครั้ง ผมคิดว่าเราควรหลีกเลี่ยงมันให้มากที่สุด คำถามคือจะเป็นไปได้จริงหรือไม่ บางทีพวกเขาอาจให้ใบเหลือง”
“มันไม่ถูกสุขลักษณะ และเป็นวิธีหนึ่งในการแพร่กระจายไวรัสนี่คือหนึ่งในเหตุผลที่เราต้องระวังให้ดีก่อนที่จะเริ่มกันอีกครั้ง ผมไม่ได้มองโลกในแง่ร้าย แต่ก็มีความติดค้างสงสัยอยู่”
ด้าน ดร. เอียน เบรียร์ลีย์ นักไวรัสวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ก็เห็นพ้องเช่นกันว่าการถ่มน้ำลายคือการเพิ่มความเสี่ยงที่จะแพร่กระจายไวรัส “ถ้าคนๆ นั้นติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ หรือติดเชื้อและมีอาการ ไวรัสจะอยู่ในลำคอ และมันสามารถแพร่สู่สิ่งแวดล้อมได้โดยการถ่มน้ำลาย”
“ผู้เล่นอาจต้องพัฒนาการเฉลิมฉลองใหม่ๆ เพื่อไม่ให้พวกเขาสัมผัสชิดใกล้กัน ซึ่งรวมถึงการจับมือก่อนเกม, การล้อมวงปลุกใจก่อนเกม หรือการแลกเสื้อกันเมื่อจบเกม”
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ยังมีกระแสข่าวด้วยว่า การเบียดกระแทกกันของนักฟุตบอลที่มุมธง อันเป็นแนวทางปกติของการครองบอลถ่วงเวลาท้ายเกม ก็อาจถูกสั่งห้ามเช่นกัน เพื่อลดการสัมผัสตัวในระหว่างผู้เล่นลง
