เซร์คิโอ รามอส แม้จะเพิ่งทำลายสถิติเป็นแข้งที่เล่นให้ทีมชาติในยุโรปมากที่สุด กระนั้นเป็นวันที่ไม่น่าจดจำหลังเจ้าตัวพลาดถึง 2 จุดโทษ ทว่ายังมาได้ ซูเปอร์ซับอย่าง เคราร์ด โมเรโน่ ซัดในนาทีที่ 89 พา “กระทิงดุ” ไล่เจ๊า สวิตเซอร์แลนด์ ที่เหลือ 10 คน 1-1 แบ่งแต้มกันไป ในศึกเนชั่นส์ ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
สนาม : แซงต์ ยาค็อบ-พาร์ค, บาเซิ่ล
ศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ฤดูกาล 2020-21 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันนัดที่ 5 ของลีก เอ กลุ่ม 4 ระหว่างเจ้าบ้าน สวิตเซอร์แลนด์ ทีมบ๊วยของกลุ่มที่ยังไม่ชนะทีมใด รับการมาเยือนของจ่าฝูง สเปน โดยทัพจากแดนนาฬิกา เกมล่าสุดบุกไปแบ่งแต้มจาก เยอรมัน 3-3 เกมนี้ วลาดิเมียร์ เป็ตโควิช ยังใช้ ฮาริส เซเฟโรวิช เป็นหน้าตัวเป้า โดยมีตัวปั้นเกมอย่าง เซอร์ดาน ชากิรี่ และกรานิต ชาคา ส่วนทางฝั่ง “กระทิงดุ” เพิ่งแพ้เกมล่าสุดหลังบุกไปพ่ายให้ ยูเครน 0-1 เกมนี้ หลุยส์ เอ็นริเก้ เปลี่ยนมาใช้ 3 แนวรุกอย่างดานี่ โอลโม่, เฟร์ราน ตอร์เรส และมิเกล โอยาร์ซาบัล
ครึ่งแรกกลายเป็น “กระทิงดุ” ที่มีโอกาสลุ้นมากกว่า แค่ 6 นาทีแรก เฟร์ราน ตอร์เรส ไหลบอลให้ ดานี่ โอลโม่ ซัดไปติดบล็อคกรานิต ชาคา ออกหลัง อีก 4 นาทีถัดมา ตอร์เรส ได้ลองซัดในกรอบบ้างแต่บอลก็เหินโด่งข้ามคานออกไปไกล
นาที 19 ทัพกระทิงดุเกือบพลาดท่าหลังจ่ายคืนหลังไม่ดีโดน บรีล เอ็มโบโล่ ฉกบอลไปได้แล้วจ่ายทะลุให้ เซอร์ดาน ชากิรี่ หลุดเข้าไปซัดมุมแคบติดมือ อูไน ซิม่อน
อีกนาทีถัดมา ชากิรี่ ได้โอกาสอีกหลัง ตะบันเต็มข้อนอกกรอบกว่า 23 หลาบอลพุ่งกลางประตูแต่เหินข้ามคานออกไปแบบได้เสียว
แต่แล้ว นาที 26 กลายเป็นเจ้าบ้าน สวิตเซอร์แลนด์ ที่ชิงขึ้นนำ 1-0 ไปก่อน จากจังหวะหลุดขึ้นมาทางขวาของ บรีล เอ็มโบโล่ ปาดเข้ากลางให้ เรโม่ ฟรอยเลอร์ แปด้วยซ้ายแบบไม่จับหนีมือ อูไน ซิมอน เสียบเสาไกลอย่างสวยงาม
สเปน เกือบได้ลุ้นตีเสมอหลัง ฟาเบียน รูอิซ ได้บอลนอกกรอบแล้วดึงเข้าเท้าถนัดซัดด้วยซ้ายเสาไกลบอลตกพื้นแต่ยังไม่ผ่านมือ ยันน์ ซอมเมอร์ เซฟปัดออกหวุดหวิด
ช่วงทดเจ็บ นาที 45+1 ดานี่ โอลโม่ จ่ายบอลให้ มิเกล โอยาร์ซาบัล กดด้วยซ้ายในกรอบเน้นๆบอลพุ่งไปติดเซฟของ ยันน์ ซอมเมอร์
จบครึ่งแรก สวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นนำ สเปน 1-0
ครึ่งหลัง นาที 55 เจ้าบ้านพลาดได้ประตูที่สองอย่างน่าเสียดาย หลัง เซอร์ดาน ชากิรี่ วางบอลยาวมาที่ว่าง อูไน ซิมอน นายด่านสเปนออกมาตัดบอล ฮาริส เซเฟโรวิช วิ่งตามไปเก็บบอลก่อนดึงหลบหนี ซิมอน อีกครั้งแล้วซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งกำลังจะข้ามเส้นเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ยังโดน ริคาร์โด้ โรดริเกซ ลงไปเคลียร์สกัดจากเส้นประตูออกไปอย่างเหลือเชื่อ
นาที 56 สเปน มาได้ลูกที่จุดโทษ หลัง เซร์คิโอ รามอส โขกบอลไปติดแขนของ ริคาร์โด้ โรดริเกซ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ รามอส จะทำหน้าที่สังหาร แต่ทว่าดันซัดไปติดเซฟของ ยันน์ ซอมเมอร์ ทำให้สกอร์ยังเป็นฝ่ายตามไล่เจ้าถิ่น 0-1 เหมือนเดิม
ถัดมาอีก 2 นาที “กระทิงดุ” ได้ลูกคอนเนอร์อีก คราวนี้ เซร์คิโอ เรกีลอน เปิดมาให้ รามอส ได้โขกเน้นๆอีก แต่บอลก็ยังไปเข้ามือ ซอมเมอร์ รับไว้ได้สบาย
นาที 79 สเปน มาได้ลูกที่จุดโทษอีกครั้ง หลัง นิโก้ เอลเวดี้ ไปเสียบฟาวล์ใส่ อัลบาโร่ โมราต้า ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ แถมยังแจกใบแดงไล่ เอลเวดี้ ออกจากสนาม ก่อนที่ เซร์คิโอ รามอส จะขอแก้ตัวยิงอีกครั้ง และครั้งนี้ก็มาพลาดอีก หลังพยายามยิงแบบปาเน้นก้า แต่บอลเบาไปก่อน ยันน์ ซอมเมอร์ จะไม่หลงทางแล้วตามรับไว้ได้ ทำให้ สกอร์ยังเป็นเจ้าบ้านนำอยู่ 1-0
แต่แล้ว นาที 89 “กระทิงดุ” มาไล่ตีเสมอ 1-1 จนได้ จากจังหวะ เซร์คิโอ เรกีลอน ครอสบอลมาหน้ากรอบให้ เคราร์ด โมเรโน่ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา พุ่งมาชาร์ทบอลเข้าไป
จบเกม สวิตเซอร์แลนด์ เสมอกับ สเปน 1-1 แบ่งแต้มกันไป ทำให้ สวิสยังต้องรอชัยชนะนัดแรกต่อไปมีเพิ่มเป็น 3 คะแนนอยู่อันดับ 4 บ๊วยของกลุ่ม ส่วน สเปน ได้เพิ่มเป็น 8 คะแนน แต่โดน “อินทรีเหล็ก” เยอรมัน ที่มี 9 แต้ม แซงขึ้นไปรั้งจ่าฝูงแทน