ราชันมังกร เล่นในบ้าน ไม่กลัวใคร เดินหน้ารุกใส่ตามสไตล์ มีสกอร์ทุกเกม ชนะสมุทรปราการซิตี้ 3-1
วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน 2563 การแข่งขันฟุตบอล ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2020 นัดที่ 12 เป็นการพบกันระหว่าง “ราชันมังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ทีมอันดับ4 เปิดบ้านต้อนรับ “เขี้ยวสมุทร” สมุทรปราการ ซิตี้ ทีมอันดับ 12
มิลอส โจซิค ประเดิมคุม ราชันมังกร นัดแรก โดยส่ง 4 แนวรุกต่างชาติลงสนามพร้อมกันทั้ง ฮาเวียร์ ปาติญโญ , ยานนิค โบลี , ลอสเซมี คาราบูเอ และ สตีเฟน ล็องจิล ที่เพิ่งต่อสัญญาจบฤดูกาล
ส่วนทีมเยือน เขี้ยวสมุทร ได้ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี และ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ พ้นโทษแบนกลับมาเป็นตัวจริง พร้อมแกนหลักอย่าง บาร์รอส ทาร์เดลลี่ และ ธีระพล เยาะเย้ย
น.6 เป็นราชบุรี มิตรพล เอฟซี ขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็ว โดยเป็นการทำเกมรุกทางด้านขวาขึ้นมาโดย สตีเฟน ล็องจิล ก่อนปาดเรียดเข้ากลาง จังหวะสุดท้ายเป็น ยานนิค โบลี ซัดเข้าไปไม่เหลือซาก
น.16 ราชบุรีตัดเกมได้จากกลางสนาม ลอสเซมี่ คาราบูเอ พาบอลสวนขึ้นมา ก่อนที่สุดท้ายจะก้มหน้ากดด้วยเท้าขวา บอลกระดอนตกพื้นหลุดเสาไปอย่างน่าเสียดาย
น.29 สมุทรปราการ ซิตี้ ได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ บาร์รอส ทาร์เดลลี่ จ่ายออกซ้ายให้ เอร์เนสโต ภูมิภา เติมขึ้นมาเปิดเข้ากลาง แต่จังหวะสุดท้าย ชญาวัต ศรีนาวงษ์ เข้าชาร์จไปติดเซฟของ อุกฤษณ์ วงศ์มีมา รับไว้ได้
น.45+2 จากจังหวะเตะมุม ยูโตะ โอโนะ เปิดบอลเข้ามาที่เสาไกล แต่บอลไปโดนมือ จัสติน บาส ผู้ตัดสินดู VAR และตัดสินใจให้จุดโทษกับทางสมุทรปราการ ซิตี้ ก่อนที่ บาร์รอส ทาร์เดลลี่ จะสังหารจุดโทษเข้าไปอย่างเด็ดขาด จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกันด้วยสกอร์ 1-1
กลับสู่ครึ่งหลัง น.50 กฤษณนน ศรีสุวรรณ ยิงบอลไปโดนมือ บาร์รอส ทาเดลลี่ ผู้ตัดสินต้องเช๊ก var ก่อนที่จะตัดสินให้ว่าเป็นการแฮนด์ในกรอบเขตโทษ และเป็น ฟิลิป โรลเลอร์ สังหารจุดโทษไม่มีพลาด ราชบุรีขึ้นนำ 2-1
น.68 บาร์รอส ทาเดลลี่ แตะผ่าน ฟิลิป โรลเลอร์ เข้ามาในกรอบเขตโทษ และโดนดึงล้ม ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร แต่บอลยังไหลมาเข้าทาง เออร์เนสโต ภูมิภา ซัดด้วยขวา หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
น.69 ปฐมชัย สมสกุล ตัวสำรอง เปิดบอลย้อยๆเข้าไปในกรอบเขตโทษ และเป็น ยานนิค โบลี โฉบมาโหม่งผ่านมืออิซวาน มาห์บุด เสียบคานเข้าไปอย่างสวยงาม ราชบุรีนำห่าง 3-1
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เปิดบ้านชนะ สมุทรปราการ ซิตี้ 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 23 คะแนนจาก 12 นัด พร้อมรั้งอันดับ 4 ของตารางต่อไป ซึ่งเป็นพื้นที่คว้าสิทธิ์ไปลุยศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2021
