ถือเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกเมื่อ ดีทมาร์ ฮอปป์ เจ้าของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ สโมสรในเวทีบุนเดสลีกา เยอรมนี ออกมาเผยข่าวดีว่า บริษัทยา CureVac ที่เขาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใกล้ที่จะสามารถผลิตวัคซีนสำหรับต้านไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ภายในเดือนกันยายน-พฤศจิกายน นี้
โดย ประธานวัย 79 ปี เผยว่า “การผลิตวัคซีนภายใต้การดูแลของบริษัทยาที่ผมเป็นผู้ดูแล CureVac เดินหน้าไปได้ด้วยดี แต่ทางสถาบันวัคซีนของเยอรมนี ต้องมีการทดลองกับสัตว์ก่อนที่จะสามารถนำมาใช้กับมนุษย์ได้ ซึ่งผมคิดว่ามันมีความเป็นไปได้ที่เราจะทำสำเร็จในช่วงฤดูใบไม้ร่วง”
“ซึ่งแน่นอนหากเราทำสำเร็จ มันจะสามารถช่วยเหลือคนทั่วโลกได้ ไม่เพียงแค่ภูมิภาคของเราแน่นอน” ปธ.ฮอฟเฟ่นไฮม์ ให้สัมภาษณ์กับ SPORT1 สื่อดังเมืองเบียร์
นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่รู้ข่าวได้พยายามทุ่มเงินจำนวนมหาศาลให้กับ บริษัทยา CureVac เพื่อขอซื้อลิขสิทธิ์วัคซีนต้านโควิด-19 แต่เพียงประเทศเดียว แต่ถูกปฏิเสธจาก ดีทมาร์ ฮอปป์ นายใหญ่ฮอฟเฟ่นไฮม์ “ถ้าหากเราประสบความสำเร็จในการผลิตวัคซีนต้านเชื้อโคโรนา มันจะไม่ใช่สร้างมาเพื่อประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่มันจะถูกนำไปใช้เพื่อช่วยเหลือผู้คนทั่วโลก”
อย่างไรก็ตามในอดีตที่ผ่านมา งานวิจัยเกี่ยวกับการค้นคว้าวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสต่างๆ นั้น ต้องผ่านขั้นตอนการทดลองมากมาย ไล่ตั้งแต่ผลที่เกิดขึ้น การเก็บข้อมูล และต้องทดลองซ้ำจนแน่ใจ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญต่างลงความเห็นว่าน่าจะใช้เวลาอย่างเร็วที่สุดคือ 18 เดือน หรือบางชนิดวัคซีนต้องใช้เวลาเป็นสิบปีกว่าจะผลิตออกมาใช้จริงก็เคยมีมาแล้ว
สำหรับ ดีทมาร์ ฮอปป์ เพิ่งกลายเป็นข่าวใหญ่ในวงการลูกหนังเมืองเบียร์เมื่อต้นเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา หลังถูกแฟนบอลของ บาเยิร์น มิวนิค ชูป้ายผ้าหยามเหยียดว่าเป็นลูกโสเภณี เนื่องจากไม่พอใจที่เขาถือครองหุ้นของสโมสรฮอฟเฟ่นไฮม์ มากถึง 96 เปอร์เซนต์ ทำลายกฎ 50+1 ของลีกที่ไม่ให้เอกชนสามารถครอบครองกิจการได้เกิน 50 เปอร์เซนต์
